top of page

ออทิสติกเทียมกับความผิดปกติจากระบบประสาท: ต้นเหตุและการรักษาทางประสาทวิทยา

รูปภาพนักเขียน: Nutdanai ChaiworachatNutdanai Chaiworachat

ปัจจุบัน ความเข้าใจเกี่ยวกับโรคออทิสติก (Autism Spectrum Disorder: ASD) และความผิดปกติของระบบประสาทได้รับความสนใจอย่างมาก เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของการวินิจฉัยในเด็กและผู้ใหญ่หลายกลุ่ม อย่างไรก็ตาม มีกรณีที่เรียกว่า "ออทิสติกเทียม" หรือการแสดงอาการที่คล้ายคลึงกับออทิสติก แต่ไม่ได้มาจากปัจจัยพื้นฐานของโรค ASD จริง ๆ ในบทความนี้ เราจะพูดถึงต้นเหตุที่เชื่อมโยงกับการใช้อุปกรณ์ดิจิทัลมากเกินไป ความแตกต่างระหว่างออทิสติกเทียมและความผิดปกติของระบบประสาท รวมถึงการรักษาทางประสาทวิทยาที่เหมาะสม


ออทิสติกเทียมคืออะไร?

ออทิสติกเทียม (Pseudo-Autism) หมายถึงการแสดงออกของอาการที่ดูเหมือนออทิสติก เช่น การสื่อสารที่ผิดปกติ การขาดทักษะทางสังคม และการมีพฤติกรรมซ้ำ ๆ แต่อาการเหล่านี้มักเกิดจากปัจจัยภายนอก เช่น

  • การใช้อุปกรณ์ดิจิทัลมากเกินไป: เด็กที่ใช้จอคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต หรือสมาร์ทโฟนเป็นเวลานานอาจพลาดโอกาสในการพัฒนาทักษะทางสังคม เช่น การสื่อสารแบบตัวต่อตัว การแสดงอารมณ์ และการตอบสนองต่อสิ่งแวดล้อม

  • สภาพแวดล้อม: การเลี้ยงดูในสิ่งแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม เช่น ขาดการมีปฏิสัมพันธ์เชิงบวก

  • ปัญหาทางจิตใจ: เช่น ความเครียดเรื้อรัง หรือปัญหาครอบครัว

อาการของออทิสติกเทียมมักลดลงหรือหายไปเมื่อแก้ไขปัจจัยที่เป็นต้นเหตุ แตกต่างจาก ASD ที่เป็นภาวะเรื้อรังและต้องการการบำบัดเฉพาะทาง


ต้นเหตุจากการใช้อุปกรณ์ดิจิทัลมากเกินไป

การศึกษาพบว่าเด็กที่ใช้จอดิจิทัลนานเกินไป อาจมีปัญหาในการพัฒนาทักษะพื้นฐาน ได้แก่:

  • การลดการปฏิสัมพันธ์ทางสังคม: การจดจ่ออยู่กับหน้าจอมากเกินไปทำให้เด็กไม่สนใจผู้คนรอบข้าง

  • ผลกระทบต่อระบบประสาท: แสงสีฟ้าจากจอดิจิทัลอาจรบกวนการทำงานของสมองในระยะยาว

การจำกัดเวลาการใช้จอ และสนับสนุนกิจกรรมที่มีปฏิสัมพันธ์กับครอบครัวและเพื่อน สามารถช่วยลดผลกระทบเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ


ความผิดปกติจากระบบประสาทเกี่ยวข้องอย่างไร?

ระบบประสาทมีบทบาทสำคัญในการควบคุมการพัฒนาของพฤติกรรมและการสื่อสาร ความผิดปกติในระบบนี้อาจนำไปสู่อาการที่คล้ายกับออทิสติก ตัวอย่างความผิดปกติจากระบบประสาทที่เกี่ยวข้อง ได้แก่:

  • โรคลมชัก (Epilepsy): อาจส่งผลกระทบต่อการทำงานของสมองและพฤติกรรม

  • โรคสมองพิการ (Cerebral Palsy): ทำให้เกิดปัญหาทางการเคลื่อนไหวและการสื่อสาร

  • ความบกพร่องทางพัฒนาการทั่วไป (Global Developmental Delay): ที่ส่งผลต่อการเรียนรู้และปฏิสัมพันธ์ทางสังคม


การรักษาทางประสาทวิทยา

  1. การประเมินโดยผู้เชี่ยวชาญ:

    • การตรวจวินิจฉัยระบบประสาทโดยตรง เช่น การตรวจ EEG เพื่อตรวจหาคลื่นสมองผิดปกติ

    • การตรวจสมองด้วย MRI หรือ CT Scan เพื่อค้นหาความผิดปกติทางกายภาพ

  2. การบำบัดเฉพาะทาง:

    • การกระตุ้นสมองด้วยวิธี PBM (Photobiomodulation) เพื่อปรับการทำงานของสมอง

    • การบำบัดทางกายภาพและการฝึกพฤติกรรม เช่น การฝึกใช้สายตาติดตามสิ่งแวดล้อม

  3. การสนับสนุนจากครอบครัวและสังคม:

    • การให้คำปรึกษาผู้ปกครองเกี่ยวกับการจำกัดเวลาการใช้จอ

    • การสนับสนุนกิจกรรมที่ช่วยพัฒนาทักษะทางสังคม เช่น การเล่นกลุ่ม

บทสรุป

การใช้อุปกรณ์ดิจิทัลมากเกินไปอาจเป็นปัจจัยสำคัญที่นำไปสู่ออทิสติกเทียม การเข้าใจต้นเหตุและความเชื่อมโยงนี้มีความสำคัญในการวางแผนการรักษาที่เหมาะสม การประเมินโดยผู้เชี่ยวชาญทางประสาทวิทยา และการสนับสนุนทางครอบครัวสามารถช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตของเด็กที่มีอาการคล้ายคลึงกับออทิสติก และส่งเสริมการพัฒนาทักษะที่สำคัญอย่างยั่งยืน




ดู 1 ครั้ง0 ความคิดเห็น

Kommentare

Mit 0 von 5 Sternen bewertet.
Noch keine Ratings

Rating hinzufügen
bottom of page