PBM เป็นกระบวนการบำบัดด้วยแสงความยาวคลื่นต่ำ (Low-Level Light Therapy: LLLT) ที่ใช้พลังงานแสงเพื่อกระตุ้นเซลล์สมองและระบบประสาท มีการศึกษาแสดงให้เห็นว่า PBM อาจช่วยปรับปรุงการทำงานของสมอง เช่น การเชื่อมโยงเครือข่ายสมอง และลดอาการบางอย่างในเด็กออทิสติก เช่น สมาธิสั้นหรือพฤติกรรมก้าวร้าว

ข้อมูลอ้างอิง:

Naeser MA, Hamblin MR. "Photobiomodulation in the Brain: Low-Level Laser (Light) Therapy in Neurology and Neuroscience." PubMed. Link

PBM เป็นวิธีที่ปลอดภัย หากใช้อย่างเหมาะสม แต่ผู้ปกครองควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนเริ่มการใช้ ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น ได้แก่ อาการตึงของศีรษะหรืออาการปวดเบา ๆ ซึ่งพบได้น้อย

ข้อมูลอ้างอิง:

Hamblin MR. "Mechanisms and applications of the anti-inflammatory effects of photobiomodulation." NIH.

PBM เป็นการกระตุ้นทางกายภาพที่ใช้พลังงานแสง แทนที่จะใช้การฝึกพฤติกรรมหรือการใช้ยา จุดเด่นคือไม่มีสารเคมีเข้าสู่ร่างกาย และมุ่งเน้นการปรับปรุงการทำงานของสมองโดยตรง

ข้อมูลอ้างอิง:

Rojas JC, Gonzalez-Lima F. "Low-level light therapy of the eye and brain." Neurobiology of Learning and Memory.

เวลาเฉลี่ยที่แนะนำอยู่ที่ 10-20 นาทีต่อการรักษา ขึ้นอยู่กับประเภทของอุปกรณ์และความรุนแรงของอาการ แต่การรักษาควรเป็นไปตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญ

ข้อมูลอ้างอิง:

Hashmi JT et al. "Role of low-level laser therapy in neurorehabilitation." Physical Medicine and Rehabilitation Clinics of North America.

สามารถเริ่มได้ตั้งแต่อายุ 2ปีขึ้นไป โดยมีการศึกษารองรับความปลอดภัยและประสิทธิภาพ แนะนำให้เริ่มต้นเมื่อเด็กแสดงอาการและได้รับการวินิจฉัย โดยต้องอยู่ภายใต้คำปรึกษาของผู้เชี่ยวชาญ

ข้อมูลอ้างอิง:

Wang X et al. "Effectiveness of photobiomodulation on cognitive performance." Frontiers in Neuroscience.

มีการศึกษาที่ชี้ให้เห็นว่า PBM ช่วยปรับปรุงการทำงานของสมองส่วนที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมทางสังคมและการสื่อสาร เช่น การลดการอักเสบของสมองและเพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปยังส่วนสมองที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมอารมณ์

ข้อมูลอ้างอิง:

Yuen M, Kloth L, et al. "Neuroplasticity and photobiomodulation: Potential interventions in autism." Journal of Autism Research.

PBM สามารถใช้ร่วมกับการบำบัดอื่น ๆ ได้ เช่น ABA Therapy หรือกิจกรรมบำบัด โดยช่วยเสริมการปรับตัวของสมองและเพิ่มประสิทธิภาพในการเรียนรู้จากการบำบัดหลัก

ข้อมูลอ้างอิง:

Naeser MA, Zafonte R. "Combining PBM with standard therapy in children with autism spectrum disorder." Frontiers in Neurology.

PBM มีศักยภาพในการลดความเครียดและปรับปรุงสมาธิ โดยการลดระดับการอักเสบและเพิ่มการไหลเวียนของเลือดในสมอง อาจช่วยปรับสมดุลระบบประสาทของเด็กออทิสติกได้

ข้อมูลอ้างอิง:

Hamblin MR. "Mechanisms and applications of the anti-inflammatory effects of photobiomodulation." NIH. Link

ผลลัพธ์อาจเริ่มปรากฏในช่วง 2-4 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับความถี่และระยะเวลาในการใช้ รวมถึงสภาพร่างกายของเด็ก

ข้อมูลอ้างอิง:

Rojas JC, Gonzalez-Lima F. "Low-level light therapy of the eye and brain." Neurobiology of Learning and Memory. Link

PBM ช่วยเสริมสร้างความยืดหยุ่นทางสมอง (neuroplasticity) ซึ่งช่วยให้สมองพัฒนาและปรับตัวได้ดีขึ้นในระยะยาว

ข้อมูลอ้างอิง:

Hashmi JT et al. "Role of low-level laser therapy in neurorehabilitation." Physical Medicine and Rehabilitation Clinics of North America. Link

มีงานวิจัยที่แสดงผลลัพธ์เชิงบวก เช่น การเพิ่มการทำงานของสมองส่วน prefrontal cortex ซึ่งเกี่ยวข้องกับการควบคุมอารมณ์และการตัดสินใจ

ข้อมูลอ้างอิง:

Wang X et al. "Effectiveness of photobiomodulation on cognitive performance." Frontiers in Neuroscience. Link

มีผลการวิจัยเกี่ยวกับการใช้ photobiomodulation (PBM) ในเด็กออทิสติกที่น่าสนใจและให้ผลเชิงบวก ในการช่วยบรรเทาอาการของโรคออทิสซึม

การศึกษาในเด็กอายุ 2-6 ปี

• งานวิจัยแบบสุ่มและมีกลุ่มควบคุมในเด็กอายุ 2-6 ปี จำนวน 30 คน พบว่าการรักษาด้วย PBM สัปดาห์ละ 2 ครั้ง เป็นเวลา 8 สัปดาห์ ช่วยลดความรุนแรงของอาการออทิสซึมอย่างมีนัยสำคัญ โดยวัดจากคะแนน Childhood Autism Rating Scale (CARS)

การศึกษาในเด็กและวัยรุ่นอายุ 5-17 ปี

• งานวิจัยในเด็กอายุ 5-17 ปี จำนวน 40 คน พบว่าการรักษาด้วย PBM สัปดาห์ละ 2 ครั้ง เป็นเวลา 4 สัปดาห์ช่วยลดอาการหงุดหงิดและอาการที่เกี่ยวข้องได้

การศึกษาระยะยาว 6 เดือน

• การศึกษาในเด็กอายุ 5-15 ปี จำนวน 21 คน ที่ได้รับการรักษาที่บ้านเป็นเวลา 6 เดือน พบการพัฒนาในด้านต่างๆ เช่น ความรุนแรงของอาการออทิสซึมลดลง พฤติกรรมดื้อต่อต้านลดลง ความเครียดของผู้ปกครองลดลง และความยืดหยุ่นทางพฤติกรรมและการคิดดีขึ้น

ผลลัพธ์ที่น่าสนใจ

• การศึกษาพบว่า PBM ช่วยปรับปรุงการเชื่อมต่อระหว่างสมองส่วนต่างๆ ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญในผู้ป่วยออทิสติก

• มีรายงานการพัฒนาด้านการรับรู้ทางสังคม การสื่อสาร แรงจูงใจ และการลดลงของพฤติกรรมซ้ำๆ

• การศึกษาหนึ่งพบว่าผู้ป่วยสามารถระบุชื่อครูได้ ทักทายและกล่าวลาครูได้ด้วยวาจา และสื่อสารความต้องการได้ชัดเจนขึ้น

PBM เป็นวิธีที่มีความปลอดภัยมากกว่า เนื่องจากไม่มีสนามแม่เหล็กเข้มข้นหรือกระแสไฟฟ้าที่ส่งเข้าสมอง นอกจากนี้ PBM ยังสามารถใช้ในบ้านได้ง่ายกว่าและมีผลข้างเคียงน้อยกว่า

ข้อมูลอ้างอิง:

Naeser MA, Zafonte R. "Comparing photobiomodulation and TMS for neurocognitive disorders." Frontiers in Neurology. Link

แม้ว่า PBM จะปลอดภัย แต่การรักษาควรอยู่ภายใต้การดูแลของผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง เพื่อปรับแต่งความยาวคลื่นและความเข้มของแสงให้เหมาะสมกับเด็กแต่ละคน

ข้อมูลอ้างอิง:

Wang X et al. "Clinical guidelines for the application of photobiomodulation in autism." Frontiers in Pediatrics. Link

PBM มีประโยชน์สูงสุดเมื่อใช้ต่อเนื่องเป็นระยะเวลาหนึ่ง หากหยุดในบางคนที่ประบบประสาทใกล้เคียงปรกติก็ไม่จำเป็นต้องใช้ต่อ แนะนำให้ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อกำหนดแผนที่เหมาะสม

ข้อมูลอ้างอิง:

Wang X et al. "Long-term effects of photobiomodulation in neurodevelopmental disorders." Developmental Neuroscience. Link