บทนำในสมองของเรามีเครือข่ายการทำงานที่ซับซ้อนซึ่งเรียกว่า Brain Networks ทำหน้าที่ควบคุมกระบวนการต่างๆ เช่น สมาธิ ความจำ และการตอบสนองทางอารมณ์ หนึ่งในเครือข่ายสำคัญคือ Default Mode Network (DMN) ซึ่งเกี่ยวข้องกับการทำงานของสมองขณะพัก (Resting State) เช่น การคิดในใจ การสะท้อนตัวเอง และการประมวลผลทางสังคม
สำหรับเด็กที่มีภาวะออทิสติก การทำงานของ DMN มักแสดงความผิดปกติ เช่น การเชื่อมต่อที่ลดลงระหว่างส่วนต่างๆ ของเครือข่ายสมอง ทำให้พวกเขาประสบปัญหาในการประมวลผลข้อมูลทางสังคม การโต้ตอบกับผู้อื่น และการสื่อสาร นอกจากนี้ ความไม่สมดุลในระบบสมองยังส่งผลให้เกิดพฤติกรรมซ้ำๆ และการโฟกัสกับเรื่องเฉพาะทาง (Restricted Interests)
หนึ่งในวิธีที่ช่วยฟื้นฟูเครือข่ายสมองและปรับปรุงการทำงานของ DMN คือ การกระตุ้นสมองด้วยแสง (Photobiomodulation หรือ PBM) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ปลอดภัยและได้รับการยอมรับในการช่วยปรับสมดุลสมองและเสริมสร้างการเชื่อมต่อของเครือข่ายสมอง

1. การแก้ไข: ปัญหาที่เกิดจากความผิดปกติของระบบเครือข่ายสมองในสมองของเรา เครือข่ายการทำงานต่างๆ เช่น Default Mode Network (DMN) มีบทบาทสำคัญในการควบคุมการคิดในใจ การประมวลผลข้อมูล และการรับรู้ทางสังคม ในเด็กที่มีภาวะออทิสติก ความผิดปกติของ DMN มักแสดงออกมาในรูปแบบของการเชื่อมต่อที่ลดลงระหว่างเซลล์ประสาท (Synapses) และการทำงานของเครือข่ายที่ไม่สอดคล้องกัน
หลักการของ Neuroplasticity หรือความยืดหยุ่นของสมอง ชี้ให้เห็นว่าสมองสามารถสร้างและปรับเปลี่ยนเส้นทางประสาทใหม่ๆ เพื่อชดเชยการทำงานที่ผิดปกติได้ ความผิดปกติของ Synapses และเครือข่ายสมองใน DMN จึงสามารถแก้ไขได้ด้วยการกระตุ้นที่เหมาะสม เพื่อเสริมสร้างการเชื่อมโยงระหว่างเซลล์ประสาท และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสมองในภาพรวม
ความไม่สมดุลนี้ไม่เพียงส่งผลต่อการทำงานของสมอง แต่ยังสร้างอุปสรรคในการพัฒนาทักษะทางสังคม การสื่อสาร และการควบคุมอารมณ์ในเด็กที่มีภาวะออทิสติกอีกด้วย 2. วิธีการ: การกระตุ้นเพื่อฟื้นฟูสมดุลของเครือข่ายสมองการกระตุ้นสมอง (Stimulation) เป็นแนวทางที่ใช้กระตุ้นเซลล์ประสาทและเครือข่ายสมองผ่านสิ่งเร้าต่างๆ เพื่อฟื้นฟูการเชื่อมโยงที่ผิดปกติในระบบเครือข่ายสมอง วิธีการนี้สามารถปรับปรุงการสื่อสารระหว่างเซลล์ประสาทและส่งเสริมการสร้าง Synapses ใหม่ๆ
เทคนิคการกระตุ้นสมองอาจใช้สิ่งเร้าหลายรูปแบบ เช่น แสง เสียง ไฟฟ้าระดับต่ำ หรือกิจกรรมเฉพาะที่ออกแบบมาเพื่อเสริมการทำงานของสมอง ตัวอย่างของการกระตุ้นที่ได้รับความนิยม ได้แก่:
การกระตุ้นสมองด้วยกิจกรรมที่ออกแบบมาเพื่อส่งเสริมสมองเฉพาะส่วน
การใช้เทคโนโลยี เช่น แสงหรือไฟฟ้าระดับต่ำ เพื่อปรับสมดุลระหว่างสมองซีกซ้ายและซีกขวา
การกระตุ้นสมองผ่านกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหว เช่น การออกกำลังกายที่กระตุ้นสมองซีกขวาหรือซีกซ้ายโดยเฉพาะ
การกระตุ้นนี้ช่วยสร้าง Synapses ใหม่ๆ และเพิ่มการทำงานของสมองในบริเวณที่ต้องการ ส่งผลให้สมองสามารถปรับตัวและพัฒนาประสิทธิภาพการทำงานได้ดีขึ้น
3. ด้วยอะไร: เครื่องมือและวิธีการกระตุ้นที่ใช้ฟื้นฟูสมองการกระตุ้นสมอง (Stimulation) อาศัยเทคโนโลยีที่ปลอดภัยและได้รับการออกแบบมาเพื่อกระตุ้นการทำงานของสมองเฉพาะส่วน รวมถึงส่งเสริมการสร้าง Synapses ใหม่ๆ และปรับปรุง Neuroplasticity ตัวอย่างของเครื่องมือที่ใช้ ได้แก่:
แสงเลเซอร์พลังงานต่ำ (Low-Level Laser Therapy, LLLT): แสงเลเซอร์ในช่วงความยาวคลื่นที่ปลอดภัยจะกระตุ้นเซลล์ประสาทโดยตรง
แสง LED ความเข้มต่ำ: ช่วยกระตุ้นการทำงานของเซลล์ประสาทโดยไม่ก่อให้เกิดความร้อน
อุปกรณ์กระตุ้นสมองผ่านกิจกรรมเฉพาะ: เช่น การฝึกสมองซีกซ้ายหรือซีกขวาด้วยการเคลื่อนไหวหรือแบบฝึกหัดที่ออกแบบมาเฉพาะ
เครื่องมือเหล่านี้ทำงานร่วมกับการวางแผนการบำบัดที่ปรับให้เหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละราย โดยเน้นการเสริมสร้างความเชื่อมโยงของเครือข่ายสมอง และปรับปรุงการทำงานของ DMN และ Synapses เพื่อแก้ไขความไม่สมดุลของสมอง
4. ผลลัพธ์: การฟื้นฟูและศักยภาพใหม่ของสมองหลังการกระตุ้นสมองอย่างเหมาะสม ผลลัพธ์ที่สำคัญที่เกิดขึ้น ได้แก่:
การเพิ่มความยืดหยุ่นของสมอง (Enhanced Neuroplasticity): สมองสามารถสร้างเส้นทางประสาทใหม่และปรับปรุงการเชื่อมต่อระหว่าง Synapses
การฟื้นฟูสมดุลของสมอง: เครือข่ายสมอง เช่น DMN กลับมาทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
การพัฒนาทักษะทางสังคมและการสื่อสาร: เด็กออทิสติกสามารถตอบสนองต่อสิ่งแวดล้อมและปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นได้ดีขึ้น
ลดพฤติกรรมซ้ำๆ และการควบคุมอารมณ์: สมองที่สมดุลช่วยให้สามารถควบคุมพฤติกรรมและอารมณ์ได้ดีขึ้น
ศักยภาพด้านการเรียนรู้และความจำเพิ่มขึ้น: สมองสามารถประมวลผลข้อมูลได้เร็วขึ้นและมีสมาธิมากขึ้น
ด้วยการใช้วิธีการกระตุ้นที่เน้นเสริมสร้างเครือข่ายสมองและ Neuroplasticity การฟื้นฟูสมองจึงไม่ได้เพียงแค่ลดอาการที่เกี่ยวข้องกับความผิดปกติ แต่ยังช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตและศักยภาพใหม่ๆ ของผู้ป่วยได้ในระยะยาว
ข้อมูลอ้างอิง
Buckner, R. L., Andrews-Hanna, J. R., & Schacter, D. L. (2008). The brain's default network: Anatomy, function, and relevance to disease. Annals of the New York Academy of Sciences, 1124(1), 1-38.
อธิบายโครงสร้างและหน้าที่ของ Default Mode Network (DMN) รวมถึงบทบาทในกระบวนการทางสังคมและการทำงานของสมอง
Uddin, L. Q., Supekar, K., & Menon, V. (2010). Typical and atypical development of functional human brain networks: Insights from resting-state fMRI. Frontiers in Systems Neuroscience, 4, 21.
บทความนี้นำเสนอความแตกต่างในการทำงานของเครือข่ายสมอง เช่น DMN ในเด็กที่มีภาวะออทิสติก
Anderson, J. S., Nielsen, J. A., Froehlich, A. L., et al. (2013). Functional connectivity magnetic resonance imaging classification of autism. Brain, 134(12), 3742-3754.
การศึกษานี้แสดงความเชื่อมโยงที่ลดลงใน DMN ของเด็กที่มีภาวะออทิสติก
Hamblin, M. R. (2016). Shining light on the head: Photobiomodulation for brain disorders. BBA Clinical, 6, 113-124.
บทความนี้สนับสนุนการใช้ Photobiomodulation (PBM) เพื่อกระตุ้นการทำงานของสมองและปรับปรุงเครือข่าย DMN
Menon, V. (2011). Large-scale brain networks and psychopathology: A unifying triple network model. Trends in Cognitive Sciences, 15(10), 483-506.
อธิบายการทำงานของเครือข่ายสมองขนาดใหญ่ รวมถึง DMN และความผิดปกติในเด็กที่มีภาวะออทิสติก
Wang, Z., Lu, Z., Zhu, C., et al. (2010). Altered default mode network in children with autism. Human Brain Mapping, 31(6), 944-954.
การศึกษานี้ตรวจสอบความผิดปกติของ DMN ในเด็กออทิสติกผ่านการใช้ภาพถ่ายด้วย fMRI
Lubar, J. F. (2003). Neurofeedback for the management of attention-deficit/hyperactivity disorders. Applied Psychophysiology and Biofeedback, 28(1), 1-12.
กล่าวถึงเทคนิคการกระตุ้นสมองเพื่อเสริมสร้างการเชื่อมโยงในเครือข่ายสมอง รวมถึงการใช้ Neurofeedback

Comments